การพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าของสวิตเซอร์แลนด์

การพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าของสวิตเซอร์แลนด์

วันที่นำเข้าข้อมูล 7 มิ.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,594 view

การพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าของสวิตเซอร์แลนด์

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ได้รายงานการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้าล่าสุดของสวิตเซอร์แลนด์ ๒ รูปแบบ ประมวลประเด็นสำคัญได้ ดังนี้

๑.    การพัฒนาต้นแบบคอมพิวเตอร์สำหรับการวางแผนติดตั้งโครงข่ายไฟฟ้าในประเทศกำลังพัฒนา

นาง Cristina Dominguez นักวิจัยสถาบัน The Federal Institute for Material Science and Technology (Empa)[๑] ได้รวบรวมข้อมูลการใช้ไฟฟ้าจากภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาราซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการพัฒนาไฟฟ้าต่ำที่สุดในโลก มาประกอบกับชุดข้อมูลจาก World Bank สถาบันวิจัยของปากีสถานและกัวเตมาลา และข้อมูลจากบริษัทที่ดำเนินโครงการพัฒนาไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อประมวลเป็นฐานข้อมูลเพื่อสร้างเหมืองข้อมูลและอัลกอริทึมให้นักวิจัยสามารถเข้าใจการบริโภคไฟฟ้าของคนในแต่ละพื้นที่ได้ดีขึ้นและสามารถวางแผนติดตั้งโครงข่ายไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำและยั่งยืน

งานวิจัยดังกล่าวจะทำให้โครงข่ายไฟฟ้าในประเทศกำลังพัฒนามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และช่วยให้ประเทศดังกล่าวหลุดจากวงจรของความยากจน และจะเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและเปิดโอกาสให้ประชาชนทำงานอื่นนอกเหนือจากภาคการเกษตร รวมทั้งแก้ไขปัญหาด้านที่พักอาศัยและสุขภาพต่อไป

๒.    ไปรษณีย์ (ปณ.) สวิสติดตั้งระบบแสงสว่างอัจฉริยะที่ศูนย์กระจายพัสดุ ๘ แห่ง

ไปรษณีย์สวิสได้ติดตั้งระบบแสงสว่างอัจฉริยะที่ศูนย์กระจายพัสดุในสวิตเซอร์แลนด์ ๘ แห่ง ที่เมือง Härkingen เมือง Zurich-Mülligen เมือง Eclépens เมือง Daillens เมือง Vétrozเมือง Untervaz และ
เมือง Frauenfeld (เมืองหลวงของรัฐ Thurgau และเป็นเมืองแรกที่ริเริ่มโครงการดังกล่าว)

ระบบแสงสว่างอัจฉริยะดังกล่าวทำงานด้วยกล้องจับภาพวัตถุแบบใช้ความร้อน โดยหลอดไฟด้านนอกอาคารจะหรี่อยู่เป็นปกติ และจะสว่างขึ้นจนเต็มกำลังเมื่อกล้องตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนหรือยานพาหนะเข้ามาในแต่ละพื้นที่ ซึ่งสามารถช่วยลดการใช้พลังงานต่อปีลงได้ ๑.๑๖ ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง หรือเทียบได้กับปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยในครัวเรือน ๒๖๐ ครัวเรือน/ปี และลดการปล่อยก๊าซ CO2 ลงกว่า ๑๗๔ ตัน นอกจากนี้ ระบบแสงสว่างอัตโนมัติรุ่นปัจจุบันมีอายุการใช้งาน ๒๕ ปี (ระบบเดิมเฉลี่ยประมาณ ๒๐ ปี) และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจากเดิมลงได้ร้อยละ ๘๕ และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาประจำปีได้ถึง
สองในสาม รวมทั้งยังช่วยลดผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์กลางคืน และลดมลภาวะทางแสง
ซึ่งเป็นปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมือง

*****************************************

กรมยุโรป

กองยุโรปกลาง

มิถุนายน ๒๕๖๔

 

[๑] สถาบัน Empa เป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานของสถาบันเทคโนโลยีภายใต้การดูแลของรัฐบาลสวิส