สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (Eurostat) รายงานการเคลื่อนย้ายแรงงานของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในปี 2017 ที่ผ่านมาพบว่า ประเทศที่มีประชากรอายุระหว่าง 20-64 ปีเคลื่อนย้ายออกไปทำงานในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมากที่สุดได้แก่ โรมาเนีย (2,366,000คน) โปแลนด์ (1,762,100 คน) อิตาลี (1,099,700 คน)  โปรตุเกส (847,700 คน) และบัลแกเรีย (533,900 คน) โดยมีแรงจูงใจที่สำคัญได้แก่ โอกาสที่จะได้รับการว่าจ้างที่สูงกว่าในประเทศของตน เช่น ร้อยละ 82.9 กรณีแรงงานชาวสโลวีเนีย, ร้อยละ 79.8 สำหรับชาวโครเอเชีย,    ร้อยละ 71.2 สำหรับชาวโรมาเนีย และร้อยละ 68.7 สำหรับชาวบัลแกเรีย

ในขณะที่สัดส่วนของประชากรที่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่อาศัยอยู่ในประเทศกับประชากรที่มีการศึกษาสูงที่อาศัยอยู่นอกประเทศมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน ส่วนพลเมืองของโรมาเนีย และโครเอเชียที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะได้รับการจ้างงานมากขึ้น ขณะที่แรงงานชาวบัลแกเรียมีโอกาสได้รับการจ้างงานในประเทศเท่าๆกับในต่างประเทศ ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าประชากรของบัลแกเรีย โครเอเชีย และโรมาเนียที่มีการศึกษาขั้นพื้นฐานที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศมีมากกว่าสัดส่วนของผู้ที่มีระดับการศึกษาเท่ากันที่อยู่ในประเทศของตน

รายงานการศึกษาของสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (Eurostat) พบว่าในทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการจ้างงานของพลเมืองของสหภาพยุโรปได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแรงงานไร้ฝีมือมีอัตราการถูกจ้างงานที่สูงขึ้นโดยเฉพาะที่มาจากกลุ่มสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรป เนื่องจากประเทศในยุโรปส่วนใหญ่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงจำเป็นต้องนำเข้าแรงงานจากประเทศต่างๆเพื่อไปทดแทนแรงงานเดิม

ส่วนประเทศที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานน้อยที่สุดในสหภาพยุโรป ได้แก่ อังกฤษและเยอรมนี โดยเฉลี่ยเพียงร้อยละหนึ่งของพลเมือง