ความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของสหภาพยุโรปกรณีสหราชอาณาจักรถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลง

(No Deal Brexit) 

              เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของสหภาพยุโรปสำหรับ Brexit (เข้าถึงได้ที่ http://bit.ly/2RtQfL2) โดยเฉพาะในกรณี No Deal Brexit ที่อาจเกิดขึ้นในวันที่           1 พฤศจิกายน 2562 โดยข้อเสนอทางกฎหมาย 18 จาก 19 ฉบับได้รับความเห็นชอบจาก สหภาพยุโรป และคณะรัฐมนตรีแห่งสหภาพยุโรปแล้ว ฉบับสุดท้ายเรื่องกรอบงบประมาณฉุกเฉินสำหรับปี 2562 คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบในเดือนนี้ นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปยังได้พิจารณาผลกระทบของการขยายเวลา Brexit ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2562 แล้วนั้นเห็นว่า ไม่มี       ความจำเป็นต้องปรับแก้สาระสำคัญในมาตรการ ที่ออกไปแล้ว รวมทั้งไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการใหม่เพิ่มเติม

              ช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการยุโรปได้หารือกับทั้ง 27 ประเทศสมาชิก และตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมของแต่ละประเทศ โดยพบว่า ทุกประเทศมีความพร้อมสูงสำหรับ Brexit ในทุกรูปแบบ อย่างไรก็ดียังมีเรื่องของประเด็นที่ประเทศสมาชิกต้องเฝ้าระวังต่อไป ดังนี้

              1. สิทธิในการพำนักของแต่ละพลเมืองและการเข้าถึงประกันสังคม แต่ละประเทศสมาชิกได้จัดเตรียมมาตรการฉุกเฉินก่อน 12 เมษายน 2562 เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าพลเมืองสหราชอาณาจักร และสมาชิกครอบครัวที่มิได้ถือสัญชาติในสหภาพ-ยุโรปจะสามารถพำนักอย่างถูกกฎหมายทันที (immediate period) ที่สหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง โดยได้จัดทำเว็บไซต์รวบรวมมาตรการฉุกเฉินของแต่ละประเทศสมาชิกไว้ที่ http:/ /bit.ly/31Ksh2E

              2. ศุลกากร การเก็บภาษีทางอ้อม และการตรวจบริเวณชายแดน คณะกรรมาธิการยุโรปได้จัดประชุมและออกข้อแนะนำเกี่ยวกับศุลกากร ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิต ในขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศสมาชิกได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรบุคคล ซึ่งรวมถึงการตรวจบริเวณชายแดนเพื่อควบคุมมาตรฐานสุขอนามัยพืชและสัตว์ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นจุดเข้า-ออกหลักกับสหราชอาณาจักรตลอดจนการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ

              3. การขนส่ง คณะกรรมาธิการยุโรป อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎระเบียบฉุกเฉินด้านการขนส่งทางอากาศเพื่อให้สาย-การบินในสหภาพยุโรปปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องสัญชาติสายการบิน (majority ownership) และข้อบังคับด้านการควบคุมต่าง ๆ สำหรับการขนส่งทางราง ได้ย้ำให้ผู้บริการที่ยังมิได้ขอรับใบอนุญาตจากประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศเร่งดำเนินการ

              4. การประมง คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกเพื่อเก็บข้อมูลเตรียมพร้อมสำหรับการขออนุญาตทำประมงในน่านน้ำสหราชอาณาจักร ทันทีที่สห-ราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปและกฎระเบียบฉุกเฉินเรื่องใบอนุญาตทำประมงมีผลบังคับใช้ อีกทั้งยังออกแผนปฏิบัตรการเพื่อให้สามารถใช้กองทุน European Maritime and Fisheries Fund ได้หากจำเป็น ในกรณีที่ต้องหยุดทำการประมงชั่วคราว

              5. บริการทางการเงิน บริษัทต่าง ๆ เร่งดำเนินการตามแผนรับมือตั้งแต่ช่วงก่อนวันที่ 12 เมษายน 2562 แต่หลายบริษัทยังประสบปัญหา โดยคณะกรรมาธิการยุโรปย้ำให้บริษัทที่ยังไม่พร้อมเพราะปัญหาบางประการ เช่น การจัดการสัญญาและการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เร่งดำเนินการตามมาตรการเตรียมความพร้อมให้แล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม 2562

              6. ผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมือทางการแพทย์ และสารเคมี มีผลิตภัณฑ์ยาที่ได้รับอนุญาตในระดับสหภาพยุโรปจาก European Medicines Agency (EMA) อีกเพียง ร้อยละ 1 ที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับในช่วงก่อนวันที่ 12 เมษายน 2562 ซึ่งปัจจุบัน EMA เร่งดำเนินการใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ส่วนผลิตภัณฑ์ยาที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของประเทศสมาชิกต้องดำเนินการตามข้อบังคับภายใน 31 ตุลาคม 2562 ด้านเครื่องมือทางการแพทย์อยู่ระหว่างการถ่ายโอนใบรับรองจากหน่วยงานของ       สหราชอาณาจักร ให้กับหน่วยงานของสมาชิกอื่นในสหภาพยุโรปส่วนด้านสารเคมีข้อมูลการจดทะเบียนตามระเบียบข้อบังคับ REACH 718 ชนิดที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอนจาก สหราชอาณาจักร ให้กับประเทศสมาชิกอีก 27 ประเทศโดย European Chemicals Agency (ECHA) ได้เปิดช่องทางให้ลงทะเบียนในระบบ REACH-IT เพื่อให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลการลงทะเบียนได้ทันทั้งหมดก่อนวันถอนตัว

             ***************************************************