อียูประกาศให้วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา เป็นวันเริ่มต้นของปีแห่งการเดินทางโดยรถไฟในทวีปยุโรป โดยเน้นการ นำเสนอประโยชน์ของการท่องเที่ยวโดยรถไฟ ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยและเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดแล้ว ยังเป็น ตัวช่วยสำคัญในการนำไปสู่เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะจัดกิจกรรมนั่ง รถไฟท่องเที่ยวทั่วทวีปยุโรปตลอดปี 2564 เพื่อส่งเสริมการใช้รถไฟในการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจ ทั้งยัง เป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทวีปยุโรปให้เป็นศูนย์ในอีก 30 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ นาง Adina Vălean กรรมาธิการยุโรปด้านการคมนาคมขนส่ง กล่าวว่า “เทรนด์อนาคตของการปฎิรูประบบ ขนส่งของทวีปยุโรปนั้น มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องราคาไม่แพง ซึ่งการ เดินทางโดยรถไฟสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ทุกข้อ ในขณะที่แผนส่งเสริมการเดินทางโดยรถไฟในปี 2564 จะช่วย ผลักดันการคมนาคมขนส่งทางรางให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง โดยการจัดกิจกรรมพิเศษที่มีความหลากหลาย และน่าสนใจ จะช่วยเพิ่มคุณค่าและสร้างโอกาสให้แก่การเดินทางในรูปแบบนี้ต่อไป”

การเดินทางโดยรถไฟ: เครื่องมือพัฒนาสู่ความยั่งยืน

จากการสำรวจพบว่าการขนส่งทางรางมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงร้อยละ 0.5 ของปริมาณก๊าซ ทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาจากภาคการขนส่งในทวีปยุโรป จึงถือเป็นรูปแบบการเดินทางที่เหมาะสำหรับการขนส่ง คนและสินค้า ทั้งยังมีความยั่งยืนในการบริหารจัดการภาวะโลกร้อนได้ดีกว่าการขนส่งในรูปแบบอื่น นอกจากนั้น การเดินทางโดยรถไฟยังมีความปลอดภัย และยังสามารถพานักท่องเที่ยวและคนทำงานเดินทางออกไปยังพื้นที่ ต่างๆ ผ่านทางโครงข่ายคมนาคมเพื่อเชื่อมต่อยุโรปที่มีชื่อว่า Trans-European Network Program (TEN–T)

อย่างไรก็ดี จากสถิติพบว่าการใช้ประโยชน์จากระบบรถไฟในปัจจุบันยังถือว่าน้อยมาก โดยผู้คนจำนวนเพียงร้อยละ 7 ที่ใช้ระบบรางในการเดินทาง ในขณะที่การขนส่งสินค้าทางรางยังคงมีสัดส่วนที่ตํ่ามากเช่นกันคือประมาณร้อย ละ 11 เท่านั้น อียูจึงหวังว่าแผนส่งเสริมการเดินทางโดยรถไฟในปี 2564 จะช่วยผลักดันให้การขนส่งคนและสินค้า ทางรางขยายตัวมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากภาคการขนส่งให้ได้ร้อยละ 90 ภายในปี 2593 ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะอย่างยั่งยืนฉบับใหม่ของอียู (EU Strategy on Sustainable and Smart Mobility) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน European Green Deal รวมถึงยังเป็นก้าวสำคัญของการเปิดเสรีการประกอบกิจการเดินรถไฟของสหภาพยุโรป (Single European Railway Area) ตามระเบียบ EU Fourth Railway Package ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

การขับเคลื่อนการเดินทางโดยรถไฟในปี 2564

แผนดังกล่าวมาพร้อมกับการเปิดตัวเว็บไซต์ “European Year of Rail” https://europa.eu/year-of-rail/index_en เพิ่มการเข้าถึงแหล่งข้อมูลประชาสัมพันธ์แนะนำการท่องเที่ยวทางรางและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี 2564 เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ต่างๆภายในภูมิภาคยุโรป ทั้งในมิติด้านเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยว ตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่นและวิถีชีวิตชุมชน อาทิ เส้นทางรถไฟสายสำคัญๆที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเมืองแห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป และเส้นทางเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

ที่มา: https://ec.europa.eu/commission/presscorner/detail/en/IP_20_2528