วันที่นำเข้าข้อมูล 20 ม.ค. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565
“Digitalisation” หรือ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเป็นเครื่องมือชั้นดีในการสนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจปลอดคาร์บอน
เพราะจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรและส่งเสริมการใช้วัสดุหมุนเวียน โดยสหภาพยุโรปเห็นว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายดิจิทัลและนโยบายสีเขียวควบคู่กันไป และสร้างกรอบนโยบายที่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล
ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปได้ออกข้อมติเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล เพื่อผลประโยชน์
ต่อสิ่งแวดล้อม) Council conclusions on Digitalisation for the Benefit of the Environment
(ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของการก้าวสู่โลกยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว และพิจารณาหาวิธีเชื่อมโยงการพัฒนาทั้งสองมิติ
ไปพร้อมกัน โดยเฉพาะในบริบทของ European Green Deal ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) คณะมนตรีฯ เน้นย้าถึงศักยภาพและโอกาสในการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจสหภาพยุโรปหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลควรมีความยุติธรรมและครอบคลุมทางสังคมด้วย
2) คณะมนตรีฯ สนับสนุนให้มีการกำหนดนโยบายที่มีความทะเยอทะยาน เพื่อนำเทคโนโลยีโซลูชั่นมาใช้ในการบรรลุเป้าหมายปลอดคาร์บอน อาทิ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อความก้าวหน้าในการปกป้องสิ่งแวดล้อม
3) คณะมนตรีฯ เรียกร้องให้มีการเสนอมาตรการด้านกฎหมายและมาตรการที่มิใช่กฎหมาย เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม) environmental footprint) ของศูนย์เก็บข้อมูลและเครือข่ายการสื่อสาร ตลอดจนให้มีการนำเสนอแผนปฏิบัติการสาหรับการลดจานวนขยะจากผลิตภัณฑ์ ICT ให้ได้ภายในปี 2568 โดยระบุให้สหภาพยุโรปเสนอแผนฯ ภายในสิ้นปี 2564
***************
ที่มา:
https://data.consilium.europa.eu/doc/document/ST-13957-2020-INIT/en/
ขอขอบคุณทีมงาน Thaieurope.net
รูปภาพประกอบ
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์)