สหภาพยุโรปประกาศเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยและยั่งยืนภายในปี ค.ศ. 2030

สหภาพยุโรปประกาศเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยและยั่งยืนภายในปี ค.ศ. 2030

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 มี.ค. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,010 view

ตามที่สหภาพยุโรปได้ประกาศแผน “ทศวรรษดิจิทัลของยุโรป” พร้อมเผยแพร่เป้าหมายดิจิทัลด้านต่าง ๆ สำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลสำหรับปี ค.ศ. 2030 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 นั้น หนึ่งในเป้าหมายที่แสดงให้เห็นความทะเยอทะยานในการพัฒนาด้านดิจิทัลของสหภาพยุโรปท่ามกลางการวิพากษ์วิจารณ์จากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ การกำหนดเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดและยั่งยืน (cutting-edge and sustainable) ให้ได้ 20% ของมูลค่าการผลิตทั่วโลก เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศ

เหตุใดสหภาพยุโรปจึงต้องเร่งพัฒนาการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัย? เนื่องจากเซมิคอนดักเตอร์ หรือ ไมโครชิป เป็นชิ้นส่วนหลักที่ใช้ในการประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องมือสื่อสาร คอมพิวเตอร์ ยานยนต์ ตลอดจนการผลิตดาวเทียม ซึ่งปัจจุบันสหภาพยุโรปมีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่าจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว แต่ยังขาดการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัย ด้วยเหตุนี้ เซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยจึงเป็นปัจจัยสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ ของสหภาพยุโรปที่จะสามารถเพิ่มขีดการแข่งขันให้กับสหภาพยุโรปได้ รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้สหภาพยุโรปขึ้นเป็นผู้นำและควบคุมทิศทางของโลกเทคโนโลยีในอนาคตอีกด้วย

โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่งประสบปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทำให้ต้องชะลอการผลิต เนื่องจากการประกอบรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีระบบช่วยขับขี่ (assisted driving) ระบบไฟฟ้า และเทคโนโลยีอื่น ๆ ขั้นสูง จำเป็นต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์ดังกล่าว แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เผยให้เห็นถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่สหภาพยุโรปต้องพึ่งพาสหรัฐฯ และเอเชียในด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ

ปัจจุบันสหรัฐฯ ยังคงรักษาตำแหน่งประเทศผู้นำในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนับเป็น 47% ของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ตามด้วยเกาหลีใต้ 19% ญี่ปุ่น 10% ยุโรป 10% ไต้หวัน 6% และจีน 5% จึงทำให้สาธารณชนบางกลุ่มตั้งคำถามว่า สหภาพยุโรปมีความต้องการทางตลาดสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงหรือไม่ และสหภาพยุโรปมีความพร้อมที่จะทุ่มเวลาและเงินลงทุนหลายพันล้านยูโรเพื่อปฏิรูปห่วงโซ่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลกหรือไม่ เนื่องจากสหภาพยุโรปยังตามหลังประเทศอื่น ๆ ในเรื่องของเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดอยู่มาก

อาทิ เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing และบริษัท Samsung Electronics ซึ่งเป็นผู้นำของตลาดการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพที่สุดในตลาด สหภาพยุโรปยังขาดศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้ภายใน 10 ปีข้างหน้านี้

นาย Thierry Breton กรรมาธิการยุโรปด้านตลาดร่วมได้ให้สัมภาษณ์โดยย้ำจุดยืนของสหภาพยุโรปว่า “เราทราบอยู่แล้วว่าเราจะมีความต้องการทางตลาดสำหรับไมโครชิปมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะสำหรับการผลิตสินค้า Internet of Things (IoT) รวมถึงคลาวด์ และเอดจ์คอมพิวติงอีกด้วย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่” ดังนั้น เป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดและยั่งยืนให้ได้ 20% ของมูลค่าการผลิตทั่วโลกจึงเป็นเรื่องที่สหภาพยุโรปควรจะผลักดัน

สุดท้ายนี้ สหภาพยุโรปยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายดิจิทัลต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในเข็มทิศดิจิทัล (รวมถึงเป้าหมายนี้) แต่สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า สหภาพยุโรปได้มี
การหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ หรือ ปรับเปลี่ยนโรงงานผลิตที่มีอยู่แล้วให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปอีกด้วย

***************

ขอขอบคุณทีมงาน Thaieurope.net

ที่มา:

https://www.luxtimes.lu/en/business-finance/eu-kicks-off-race-to-produce-advanced-semiconductors-by-2030-6047bc4fde135b92365c8538#:~:text=The%20ambitious%20plan%20comes%20as,driving%2C%20electrification%20and%20other%20technologies

https://www.dw.com/en/computer-chip-shortage-disrupts-global-car-production/a-56224486

https://www.semiconductors.org/2020-state-of-the-u-s-semiconductor-industry/

Credit ภาพปก https://www.techpowerup.com/276539/eu-signs-declaration-for-2-nm-node-and-custom-processor-development

 

EU_Semi_conductor

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ