สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปเหนือ

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปเหนือ

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 พ.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 6,831 view

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปเหนือ

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปเหนือ ๘ ประเทศ ประมวลได้ ดังนี้

    ๑. สวีเดน

ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๑,๑๒๘ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีอัตราผู้เสียชีวิต ๑-๒ คนต่อวันในช่วงวันที่ ๑๑-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ โดยมีผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๖,๙๘๒,๐๙๘ คน (ร้อยละ ๘๑.๗ ของประชากรที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป) โดยรัฐบาลได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มสามให้แก่ประชากรหลายกลุ่มแล้ว และรัฐบาลไม่ประกาศมาตรการ lockdown โดยตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ทางการสวีเดนจะบังคับใช้หลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมในอาคารที่มีผู้เข้าร่วมเกิน ๑๐๐ คน

    ๒. เดนมาร์ก

จำนวนผู้ติดเชื้อฯ ในเดนมาร์กมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๔ โดยในวันที่    ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๓,๙๐๗ คนจากผู้เข้ารับการตรวจ ๑๖๒,๗๔๑ คน (คิดเป็นร้อยละ ๒.๔๐) ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิต ๕ ราย ทั้งนี้ มีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๔,๔๓๒,๙๑๔ คน (ร้อยละ ๗๕.๕ ของจำนวนประชากร) โดยรัฐบาลไม่ประกาศมาตรการ lockdown และกำหนดให้เทศบาลท้องถิ่นต้องกำหนดมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หากพบว่ามีอัตราการติดเชื้อสูงกว่า ๔๐๐ รายต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน

    ๓. นอร์เวย์

ณ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒,๓๙๑ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิต
๓ ราย ทั้งนี้ ณ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔  มีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๓,๗๙๗,๖๑๔ คน (ร้อยละ ๘๗.๕ ของประชากรที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป) โดยรัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศและมาตรการการรวมตัวในที่สาธารณะบางส่วน ที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่ยังไม่ได้ประกาศมาตรการใดที่เข้มงวด เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

    ๔. ฟินแลนด์

ณ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๑,๒๕๘ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิต
๓ ราย โดยมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๓,๙๙๓,๙๕๖ คน (ร้อยละ ๗๒.๒ ของประชากร โดยตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔  ทางการฟินแลนด์ได้ยกเลิกมาตรการการจำกัดกิจกรรมและการรวมตัวในฟินแลนด์ทั้งหมด อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศยังคงดำเนินต่อไป

    ๕. เอสโตเนีย

ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๘๗๒ คน ในรอบ ๒๔ ชม. และมีผู้เสียชีวิต ๑๑ ราย โดยมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๓,๙๙๓,๙๕๖ คน (ร้อยละ ๗๒.๒ ของประชากร) โดยเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รัฐบาลได้ปรับระดับความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ จากระดับสีแดง (ความเสี่ยงสูงมาก) เป็นระดับสีส้ม (ความเสี่ยงสูง) และรัฐบาลยังคงขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่ปิดและรักษาระยะห่าง

    ๖. ลัตเวีย

ขณะนี้ ลัตเวียได้ผ่านพ้นช่วงการระบาดสูงเมื่อกลางเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ แล้ว (โดยขณะนั้น ลัตเวียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อประชากรหนึ่งแสนคนที่สูงที่สุดในยุโรป) โดย ณ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๖๑๗ คน ผู้เสียชีวิต ๒๐ ราย และมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๑,๑๔๒,๒๘๒ คน (ร้อยละ ๖๐.๑ ของประชากร) เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ รัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา ๓ เดือน โดยมีมาตรการบังคับ อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัยภายในอาคารที่เป็นสถานที่สาธารณะ ห้ามมิให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วนใช้บริการร้านค้าขนาดใหญ่ และสั่งปิดร้านค้าที่ไม่มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในช่วงสุดสัปดาห์

    ๗. ลิทัวเนีย

ณ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒,๑๕๑ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง (อัตราผลตรวจเป็นบวกร้อยละ ๑๑.๕) และมีผู้เสียชีวิต ๑๙ ราย โดยมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๑,๗๕๔,๓๘๑ คน (ร้อยละ ๖๓ ของประชากร) และมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มสามแล้วประมาณร้อยละ ๖ รัฐบาลได้ประกาศบังคับใช้ National Certificate (COVID Passport) สำหรับการเข้าใช้บริการร้านอาหาร ร้านค้าซึ่งไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (non-essential services) งานเทศกาล และโอกาสการรวมตัวในอาคาร ๕๐๐ คนขึ้นไป

    ๘. ไอซ์แลนด์

ณ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๒๐๔ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และไม่มีผู้เสียชีวิต โดยรวมมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๖๐๘.๒๓๖ คน (ร้อยละ ๘๔.๒ ของจำนวนประชากร) รัฐบาลจำกัดการรวมตัวของประชาชนที่ ๕๐ คน ทั้งภายในอาคารและภายนอก นอกจากผู้เข้าร่วมจะได้รับการตรวจ Antigen Test แล้วทุกคน จึงจะสามารถรวมตัวได้ถึง ๕๐๐ คน และมีการบังคับใช้หน้ากากอนามัยหากไม่สามารถรักษาระยะห่างเกิน ๑ เมตรระหว่างกันได้

 

*************************

กองยุโรปกลาง

กรมยุโรป

พฤศจิกายน ๒๕๖๔