นโยบายในการดำเนินยุทธศาสตร์หลักของอียู

นโยบายในการดำเนินยุทธศาสตร์หลักของอียู

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ต.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 9 ต.ค. 2566

| 1,719 view

Red_Grey_Refined_all_about_me_Poster_0

           นโยบายในการดำเนินยุทธศาสตร์หลักของอียู green, digital and geopolitical union เป็นนโยบายที่นาง อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศใช้นับตั้งแต่เข้ารับหน้าที่เมื่อปี 2562 โดยให้ความสำคัญกับการจัดการความท้าทายหลักของอียู อาทิ ภาวะทางเศรษฐกิจ สงครามในยูเครน และการขยายจำนวนสมาชิกอียูในอนาคต

นโยบายของอียูที่สำคัญ ได้แก่

            1.European Green Deal (EGD) ถือเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจอียู โดยอียูได้เปลี่ยนวาระสิ่งแวดล้อมให้เป็นวาระทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างการลงทุนและนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการพัฒนาควบคู่ไปกับการลดคาร์บอนไปด้วยกัน โดยอียูสามารถสร้างโรงงานถลุงเหล็กที่สะอาดได้ถึง 38 โรงงานภายใน 5 ปี และดึงดูดการลงทุนในโครงการไฮโดรเจนสะอาดซึ่งมีจำนวนมากกว่าสหรัฐอเมริกาและจีนรวมกัน และอียูได้ออกกฎหมาย Net-Zero Industry Act (กฎหมายดึงดูดการลงทุนเทคโนโลยี เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์) และ Critical Raw Materials Act (กฎหมายกำหนดมาตรการรองรับการเข้าถึงและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาวัตถุดิบสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีสีเขียว) และจะจัดตั้ง Clean Transition Dialogues เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และย้ำถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมสีเขียวที่เป็นธรรม โดยให้ความสำคัญกับความหลากหลายทางชีวภาพและป่าไม้ และความมั่นคงทางอาหารที่ส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

            2.ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของอียู อียูจะจัดการปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทักษะแรงงานการว่างงานจากการถูกทดแทนด้วย AI และแก้ไขปัญหาด้านสวัสดิการสังคม

            3.การเปลี่ยนผ่านดิจิทัล อียูจะเร่งรัดการพิจารณาร่าง กฎหมาย AI Act เพื่อเป็นมาตรฐานในการจัดการและการป้องกันการละเมิดสิทธิจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ เรียกร้องให้มีมาตรฐานขั้นต่ำในการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีจริยธรรม

            4.การโยกย้ายถิ่นฐาน อียูจะส่งเสริมความร่วมมือกับแอฟริกาเพื่อเป็นหุ้นส่วนของอียูในการป้องกันปัญหาการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ

            5.Global Gateway ย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงในทางบวกที่กำลังเกิดขึ้นจากยุทธศาสตร์Global Gateway ในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงกับหุ้นส่วนต่าง ๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกา เอเชียอาคเนย์ และแอฟริกาอย่างโปร่งใส และยั่งยืน

            6.รัสเซีย-ยูเครน อียูจะให้การสนับสนุนยูเครนตราบเท่าที่ยูเครนต้องการรับความช่วยเหลือ โดยเฉพาะความช่วยเหลือชาวยูเครนที่ลี้ภัยในอียู

            7.การขยายจำนวนสมาชิกอียู การขยายจำนวนสมาชิกอียูในอนาคตจะต้องเป็นความก้าวหน้าของอียู และเรียกร้องให้เร่งการขยายสมาชิกจาก 27 ประเทศ ไปสู่ 30 ประเทศ ได้แก่ ยูเครน มอลโดวาและเซอร์เบีย

                         

ข้อมูลอ้างอิงจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์