วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ม.ค. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 ก.พ. 2567
ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโปรตุเกสประกาศการตัดสินใจยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 10 มี.ค. 2567ต่อมาได้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคในการเลือกผู้นำใหม่ของพรรค Socialist Party (PS) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ทำให้การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคประสบปัญหาภาพลักษณ์ตั้งแต่เริ่มต้น และทำให้พรรคต้องเร่งแก้ไขปัญหาภายในพรรคแทนที่จะเริ่มประชาสัมพันธ์นโยบายใหม่สำหรับการเลือกตั้งเพื่อเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน
อย่างไรก็ดี คาดว่านโยบายสำคัญด้านการต่างประเทศของพรรคก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นโยบายต่างประเทศ ที่สำคัญที่สุดของพรรค ได้แก่ 1. นโยบายต่อ Indo-Pacific โปรตุเกสเห็นว่าทะเลเป็นพื้นที่ของการเชื่อมต่อ (connectivity) อียูควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาในภูมิภาค Indo-Pacific ทั้งนี้ ความร่วมมือ Indo-Pacific จะไม่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่เป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านอื่นกับอินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และใช้ความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างโปรตุเกสและอินเดียเป็นส่วนช่วยผลักดัน และ 2. นโยบายต่อเอเชีย โปรตุเกสให้ความสำคัญความเชื่อมโยงเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมกับเอเชียเพื่อสร้างความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านเศรษฐกิจและสังคม อีกทั้งยังผลักดันความสัมพันธ์ EU-ASEAN เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ multilateralism และส่งเสริมความร่วมมือกับอาเซียนในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
สำหรับนโยบายต่อสหภาพยุโรป โปรตุเกสมุ่งเน้นให้อียูเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสร้างพลังทางภูมิศาสตร์ โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. การมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนต่อเพื่อนบ้านยุโรป 2. การทำให้ยุโรปกลับมาเป็นมหาอำนาจการค้า และ 3. การเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการทหารของยุโรป
ในขณะที่พรรค Social Democratic Party (PSD) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านให้ความสำคัญกับการลดภาระภาษีของประชาชนเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ในส่วนนโยบายต่างประเทศมีมุมมองโน้มเอียงชาตินิยม โดยมุ่งใช้นโยบายต่างประเทศในการปกป้องผลประโยชน์ของโปรตุเกส สร้างความมั่นคง และการอยู่ดีกินดีให้กับประชาชน
นอกจาก 2 พรรคใหญ่ที่ได้รับความนิยมเท่ากันนี้ ยังมีพรรค Chega ซึ่งมีคะแนนเป็นอันดับ 3 โดยหากพรรค PSD ได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล จะเป็นการกลับมาบริหารประเทศของพรรคในรอบ 10 ปี หลังจากที่พรรครัฐบาล Socialist Party ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งมา 3 สมัยติดกัน
ข้อมูลอ้างอิงจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์)