เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ นางสาวสมฤดี พู่พรอเนก รองอธิบดีกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อริเริ่มความร่วมมือกับคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการปรับตัวของประเทศไทยต่อกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU Deforestation-free Products Regulation : EUDR) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ การยางแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

        ในโอกาสนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงความท้าทายจากการปรับตัวต่อกฎหมาย EUDR ตลอดจนแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปเพื่อเตรียมการต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย EUDR          โดยเฉพาะการส่งเสริมให้กฎหมาย EUDR มีความยืดหยุ่นสำหรับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของไทยในการปรับตัว และการรักษาไว้ซึ่งอาชีพและความเป็นอยู่ที่ดีของกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว

        กฎหมาย EUDR เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ European Green Deal โดยครอบคลุมสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อการตัดไม้ทำลายป่า 7 ประเภท ได้แก่ (1) ถั่วเหลือง (2) วัว (3) ปาล์มน้ำมัน         (4) ไม้ (5) โกโก้ (6) กาแฟ และ (7) ยางพารา รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปบางชนิดที่ผลิตจากสินค้า 7 ประเภทดังกล่าว ทั้งนี้กฎหมาย EUDR จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ และวันที่ 30 มิถุนายน 2569 สำหรับวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม โดยไทยในฐานะคู่ค้าของอียูจะต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวด้วย

        On 4^th December 2024, Ms. Somrudee Poopornanake, Deputy Director-General of the Department of European Affairs, Ministry of Foreign Affairs, chaired the meeting on Potential Cooperation with the European Union Delegation to Thailand on EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR). The representatives from the relevant agencies attended namely Ministry of Agriculture and Cooperatives, Ministry of Commerce, Ministry of Natural Resources and Environment, Office of the National Land Policy Board (ONLB), National Science and Technology Development Agency (NSTDA), Rubber Authority of Thailand (RAOT) and the Federation of Thai Industries (FTI).

        The participants exchanged views on the challenges and possible cooperation, in order to support the adaptation of Thai smallholders to the EUDR, while maintaing their professions and livelihood.

        EUDR is a part of the European Green Deal, covering 7 commodities, namely cattle, wood, cocoa, soy, palm oil, coffee, rubber, and some of their derived products.       EUDR will enter into force on 30 December 2025 for large operators and traders and 30 June 2026 for micro-and small enterprises. Thailand as one of the trading partners is committed to adapting under EUDR for sustainability.