In addition, on 27 March 2018, the Criminal Court issued a 5-year imprisonment verdict on four defendants, who were former police officers, on charges of demanding benefits from the trafficking of 40 Rohingya migrants in Songkla Province, and the illegal release of the offenders in 2016. The Office of Public Sector Anti-Corruption Commission identified the case as a criminal offense and serious breach of discipline, and thereafter the Office of Special Attorney in charge of anti-corruption cases transmitted the case to the Criminal Court in March 2017. The Royal Thai Police has additionally expulsed the four police officers in this regard. On the same day, the Prime Minister also issued an order to remove 13 other police officers from office for allegedly being involved in four cases of human trafficking, which are now under investigation for further disciplinary and criminal punishments. 

 

The rulings in these two cases demonstrate the Royal Thai Government’s serious commitment in systematically tackling the human trafficking and issuing severe punishment to any government officials engaging in human trafficking especially in the fisheries sector. From 2015 until now, Thai authorities have prosecuted and concluded 40 out of 85 cases of human trafficking in the fisheries sector, with the maximum imprisonment of 11 years. 

 

ศาลไทยตัดสินจําคุกจําเลยคดีค้ามนุษย์บนเรือประมงคนละ ๙ ปี ๔ เดือน และคดีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบนจากการค้ามนุษย์คนละ ๕ ปี

เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๑ ศาลอาญาได้พิพากษาจําเลย ๒ ราย ฐานหลอกลวงผู้อื่นไปค้ามนุษย์บนเรือประมง โดยมีโทษจําคุกคนละ ๙ ปี ๔ เดือน ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้ถูกหลอกลวงโดยผ่านนายหน้า ซึ่งพาผู้เสียหายไปส่งมอบให้ จําเลยทั้งสองคน เพื่อทํางานที่แพปลา และต่อมาถูกส่งไปทํางานบนเรือประมง ป. สมุทรชัย ๖๒ ซึ่งเป็นของจําเลยคนที่ ๑ โดยมีจําเลยคนที่ ๒ ซึ่งเป็นไต้ก๋งเรือ ระหว่างทํางานบนเรือ ผู้เสียหายไม่ได้รับค่าจ้างตามที่จําเลยได้สัญญาไว้ และมีเวลาพักผ่อนและได้รับอาหารไม่เพียงพอ ผู้เสียหายจึงได้ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดําเนินคดี กับจําเลยทั้งสองคน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑ ศาลอาญาได้พิพากษาจําคุกจําเลย ๔ ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ รายละ ๕ ปี ฐานเรียกรับผลประโยชน์จากการลักลอบค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ๔๐ คน ในจังหวัดสงขลา แล้วปล่อยตัว ผู้ต้องหาไปเมื่อปี ๒๕๕๙ ซึ่งสํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐได้ชี้มูลความผิดอาญา และความผิดวินัยร้ายแรง และต่อมา สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริตได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อเดือน มีนาคม ๒๕๖๐ นอกจากนี้ สํานักงานตํารวจแห่งชาติยังได้ลงโทษไล่เจ้าหน้าที่ตํารวจทั้ง ๔ นาย ออกจากราชการแล้ว ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้มีคําสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตํารวจจํานวน ๑๓ นาย พ้นจากหน้าที่ ซึ่งตกเป็น ผู้ถูกกล่าวหาพัวพันการค้ามนุษย์ใน ๔ คดี ซึ่งกําลังอยู่ในกระบวนการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยและทางอาญาด้วย

ผลการพิจารณาคดีทั้งสองคดี สะท้อนความจริงจังของรัฐบาลไทยในการปราบปรามการค้ามนุษย์ทั้งระบบ และการลงโทษสถานหนักต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่พัวพันการค้ามนุษย์โดยเฉพาะในภาคประมง โดยนับตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ มาจนถึงปัจจุบัน ทางการไทยได้ดําเนินคดีค้ามนุษย์ในภาคประมงจนถึงที่สุดแล้ว ๔๐ คดี จากทั้งหมด ๘๕ คดี โดยมีคดีที่เจ้าของเรือถูกลงโทษจําคุกสูงสุดถึง ๑๑ ปี