วันที่นำเข้าข้อมูล 21 พ.ค. 2561
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม พร้อมด้วยภริยา หัวหน้าสำนักงานทีมประเทศไทย ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม รวมถึงชาวไทยในสวีเดนและครอบครัวประมาณ ๑,๕๐๐ คน ได้เข้าร่วมขบวนกองทหารเกียรติยศสวีเดนร่วมกับผู้แทนประจำพระองค์สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ล ที่ ๑๖ กุสตาฟ แห่งสวีเดน อัญเชิญพระราชลัญจกรพิเศษ (ตราพระครุฑพ่าห์) เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากพระราชวังกรุงสตอกโฮล์มไปยังโบสถ์ Riddarholm กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ซึ่งขณะเคลื่อนขบวนมีนายทหารกลองขบวนดุริยางค์ ๔ นายพร้อมด้วยตำรวจนำ และมีนายทหารถวายความเคารพขณะขบวนเดินผ่าน
เมื่อขบวนอัญเชิญฯ เคลื่อนมาถึงโบสถ์ Riddarholm เวลา ๑๒.๐๕ น. นายทหารได้อัญเชิญพระราชลัญจกรฯ ประดิษฐานไว้ ณ ด้านหน้าปะรำพิธีโบสถ์ จากนั้นวงดุริยางค์ทหารได้เริ่มบรรเลงเพลง ๒ เพลง ประกอบด้วย ๑) เพลง Carl XV,s Sorgmarsch av Conrad Nordqvist i arrangemang av Åke Edenstrand และ ๒) เพลง Vid Dagens Slut (parafras på Bred dina vida vingar) i arrangemang av Owe Green (Jägarhorns solist) แล้วศาสตราจารย์ Staffan Rosén รองสมุหนายกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อัศวิน (Vice Chancellor of the Royal Orders of Knighthood) จึงประกาศการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙อย่างเป็นทางการ โดยกล่าวด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงได้รับการถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Seraphim จากสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ล ที่ ๑๖ กุสตาฟ แห่งสวีเดนและทรงเป็นพระประมุขที่ทรงครองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดังกล่าวนานที่สุดถึง ๖๖ ปี แล้วจึงมีการบรรเลงเพลง Segnale Solenne av Christer Danielsson (Jägarhorns solist) ทั้งนี้ ระหว่างการประกอบพิธีภายในโบสถ์ Riddarholm มีการลั่นระฆังแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Seraphim ติดต่อกันเป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ระหว่างเวลา ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. อีกด้วย
สถานเอกอัครราชทูตฯ รายงานว่า การที่มีผู้แทนระดับสูงสุดจากสำนักพระราชวังสวีเดนไปเข้าร่วมพิธี และการที่ผู้แทนจากสำนักพระราชวังสวีเดนแต่งกายด้วยชุดไว้ทุกข์ นับเป็นการแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญอย่างยิ่งและความตั้งใจในการจัดพิธีดังกล่าวอย่างสมพระเกียรติ นอกจากนี้ แม้ในวันดังกล่าวจะมีอากาศหนาวเย็น ชาวไทยในสวีเดนบางส่วน (ประมาณ ๗๐๐ คน) ที่ไม่สามารถเข้าไปในโบสถ์ต่างยืนรออยู่บริเวณพื้นที่ภายนอกจวบจนเสร็จสิ้นพิธี โดยนาย Ingemar Eliasson สมุหนายกแห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อัศวิน อดีตราชเลขาธิการสวีเดน (Chancellor of the Royal orders of Knighthood, Former Marshall of the Realm) กล่าวว่า ถือเป็นเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งของสวีเดนเนื่องจากมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนทั้งสิ้น ๒,๒๐๐ คน ซึ่งนับว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ นับแต่มีการจัดพิธีดังกล่าว
การจัดทำและการจัดพิธีอัญเชิญพระราชลัญจกรฯ ดังกล่าวเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมานานของสำนักพระราชวังสวีเดนนับตั้งแต่การจัดสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Seraphim ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของราชอาณาจักรสวีเดนเมื่อปี ๒๒๙๑ เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศแด่พระประมุข พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ หรือเทิดเกียรติสดุดีประมุขของรัฐ ที่ทรงได้รับการถวายหรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Seraphim โดยพิธีนี้จะจัดขึ้นเมื่อพระประมุข พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ หรือประมุขของรัฐ ที่ทรงได้รับการถวายหรือได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูลดังกล่าวเสด็จสวรรคต สิ้นพระชนม์ หรือถึงแก่อสัญกรรม
อนึ่ง สวีเดนได้ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตระกูล Seraphim แด่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย ๑๑ พระองค์ ได้แก่ ๑) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๒) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร) ๓) พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ๔) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ๕) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) ๖) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ๗) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ๘) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ๙) สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ๑๐) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ และ ๑๑) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล
รูปภาพประกอบ
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์)