มาตรการของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับสินค้ากลุ่มหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์
ในช่วงการระบาดของ COVID-19
นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัส Covid-19 ทุกประเทศต่างต้องการอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) และอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ในส่วนของสหภาพยุโรปก็มีความต้องการสินค้าเหล่านี้สูงเช่นกัน โดยได้ออกมาตรการ ต่าง ๆ ทั้งเพิ่มการนำเข้า ลดการส่งออก และเพิ่มการผลิตภายในประเทศ เพื่อรับมือกับวิกฤติโควิด-19 โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
-
มาตรการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น เครื่องช่วยหายใจ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับแพทย์ พยาบาลและผู้ป่วยในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2563 จนถึง 31 กรกฎาคม 2563 และอาจมีการต่ออายุได้หากความต้องการอุปกรณ์ดังกล่าวยังคงมีสูง
-
มาตรการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรปหันมาผลิตอุปกรณ์ที่จำเป็นในช่วงโควิด-19 เช่น บริษัทรถยนต์ผลิตเครื่องช่วยหายใจ บริษัทเครื่องสำอางผลิตเจลแอลกอฮอล์ และบริษัทเสื้อผ้าผลิตหน้ากากอนามัย โดยมีการเผยแพร่วิธีการเลือกวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีทำในเว็บไซต์ทางการของสหภาพยุโรป เพื่อให้สิ่งของและอุปกรณ์ที่ผลิตได้มาตรฐานและเกิดประโยชน์สูงสุดในทางการแพทย์
-
มาตรการควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ที่จำเป็นทางการแพทย์เป็นการชั่วคราว
โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2563 สหภาพยุโรปได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกสำหรับสินค้า 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ (1) แว่นครอบตา (Protective spectacles and visors) (2) อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face shields) (3) หน้ากากอนามัย (Mouth-nose-protection equipment) (4) ชุดป้องกันการติดเชื้อ PPE (Protective garments) และ (5) ถุงมือ (Gloves) โดยการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าวจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานผู้มีอำนาจของประเทศสมาชิกก่อน ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 25 เมษายน 2563 หลังจากนี้ สหภาพยุโรปจะต่ออายุมาตรการควบคุมการส่งออกไปอีก 30 วัน โดยทบทวนรายการสินค้าให้จำกัดอยู่เพียงหน้ากากอนามัย แว่นและชุดป้องกันการติิดเชื้อ
-
มาตรการเชื่อมโยงการจัดหาและขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ในระดับภูมิภาค (Joint procurement) เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพในการจัดหาและดูแลสต็อคสินค้าที่มีคุณภาพให้มีความเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของประเทศสมาชิก
-
มาตรการเลื่อนการมีผลใช้บังคับของกฎระเบียบสหภาพยุโรปว่าด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Devices Regulation) ฉบับใหม่ ออกไป 1 ปี โดยกำหนดวันมีผลใช้บังคับใหม่เป็นวันที่ 26 พ.ค. 2564 เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถมุ่งการทำงานไปที่การต่อสู้กับโควิด-19 ได้ในช่วงนี้
-
มาตรการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดน (Green Lanes) สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยาที่จำเป็น เพื่อให้สามารถผ่านช่องทางพิเศษไปยังประเทศสมาชิกได้แม้จะมีการปิดพรมแดนชั่วคราว
********************
ที่มา: https://thaieurope.net/2020/04/23/