สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปกลาง

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปกลาง

วันที่นำเข้าข้อมูล 26 พ.ย. 2564

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,912 view

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปกลาง

สถานการณ์โควิด-๑๙ ในภูมิภาคยุโรปกลาง ๘ ประเทศ ประมวลได้ ดังนี้

    ๑. เยอรมนี

        ณ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๓๐,๖๔๓ คน และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ๖๒ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง มีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๕๖.๔๒ ล้านคน (ร้อยละ ๖๗.๙ ของจำนวนประชากร) ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการ lockdown และเมื่อ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รักษาการนายกรัฐมนตรีสหพันธ์ฯ ได้ประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีรัฐ ๑๖ รัฐ สรุป ดังนี้ (๑) ใช้มาตรการ 2G (อนุญาตเฉพาะผู้ที่หายป่วยหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน) หรือ 2G+ (อนุญาตเฉพาะผู้ที่หายป่วยหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน และต้องแสดงผลตรวจเชื้อฯ เป็นลบ) สำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมสันทนาการ ร้านอาหาร โรงแรม และกิจกรรมที่สัมผัสใกล้ชิด โดยหากพื้นที่/รัฐใดมีอัตราผู้ป่วยฯ ≥ ๙ ราย ต่อประชากร ๑๐๐,๐๐๐ คน ในรอบ ๗ วัน ให้รัฐบาลแต่ละรัฐกำหนดมาตรการเข้มงวดเพิ่มเติม (๒) ใช้มาตรการ 3G (อนุญาตเฉพาะผู้ที่มีผลตรวจฯ เป็นลบ ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน หรือผู้ที่หายป่วย) ในสถานที่ทำงาน และขนส่งสาธารณะ (๓) ขยายการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง และตั้งแต่ครึ่งหลังของธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป จะเริ่มฉีดวัคซีนให้เด็กอายุ ๕-๑๑ ปี และ (๔) ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับผู้ป่วย คนชราและผู้พักฟื้น ต้องแสดงผลตรวจเชื้อฯ ทุก ๒๔ ชั่วโมง และจะแก้กฎหมายกำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีน

    ๒. ออสเตรีย

        ณ วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๑๕,๑๔๕ คน (สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาด) โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ๓๘-๓๙ คน/วัน มีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๕.๘๔ ล้านคน (ร้อยละ ๖๕.๔๙ ของจำนวนประชากร) เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ประกาศใช้มาตรการ lockdown สำหรับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายกรัฐมนตรีออสเตรียประกาศมาตรการ lockdown ทั่วประเทศ สำหรับทุกคน ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เป็นเวลา ๒๐ วัน (ถึงวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔) โดยห้ามออกนอกเคหะสถาน ยกเว้นกรณีจำเป็น
ทั้งนี้ รัฐบาลออสเตรียมีแผนจะออกมาตรการบังคับฉีดวัคซีน ตั้งแต่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

    ๓. เช็ก

        ณ วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ ๒.๓ หมื่นคน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ๙๐ คน/วัน ในรอบ ๗ วัน และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๖.๒ ล้านคน (ร้อยละ ๖๐ ของจำนวนประชากร) โดยรัฐบาลเช็กกำหนดข้อบังคับสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนี้ (๑) ตั้งแต่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนใช้บริการร้านอาหาร ผับ/บาร์ เข้าพักโรงแรม พิพิธภัณฑ์ และร่วมกิจกรรมสันทนาการ แม้จะมีผลตรวจเชื้อฯ เป็นลบ และ (๒) ตั้งแต่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายจ้างต้องตรวจหาเชื้อฯ ให้ลูกจ้างที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ ตั้งแต่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป โรงเรียนต้องตรวจหาเชื้อฯ ให้นักเรียนทุกวันจันทร์/วันแรกของสัปดาห์

    ๔. สโลวาเกีย

        ณ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๖,๓๖๔ คน/วัน โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ๔๕-๔๖ คน/วัน ในรอบ ๗ วัน และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๒.๔๒ ล้านคน (ร้อยละ ๔๔.๕๘ ของจำนวนประชากร) เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายกรัฐมนตรีสโลวาเกียประกาศมาตรการ lockdown ทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน มีผลตั้งแต่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เป็นเวลา ๓ สัปดาห์ โดยอนุญาตให้เฉพาะออกไปซื้อของใช้จำเป็น พบแพทย์ รับวัคซีน และทำงาน (แต่ต้องแสดงผลตรวจเชื้อฯเป็นลบ ๒ ครั้ง/สัปดาห์)

    ๕. สโลวีเนีย

        ณ วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย ๓,๒๗๔ คน/วัน โดยมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ๑๔-๑๕ คน/วัน ในรอบ ๗ วัน และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๑.๑๓ ล้านคน (ร้อยละ ๕๔.๔๘ ของจำนวนประชากร โดยเมื่อ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รัฐบาลสโลวีเนียประกาศมาตรการเพื่อลดการระบาด โดยให้จัดงาน/กิจกรรมโดยกำหนดที่นั่งและรักษาระยะห่างระหว่างกัน ๑.๕ เมตร และให้นักเรียนตรวจหาเชื้อฯ แบบ Antigen test ๓ ครั้ง/สัปดาห์ หากไม่ตรวจให้เรียนออนไลน์แทน

    ๖. ฮังการี

       ณ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๖,๕๑๘ คนในเวลา ๒๔ ชั่วโมง โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ๑๗๑ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๕.๗๙ ล้านคน (ร้อยละ ๕๙.๔ ของจำนวนประชากร) ขณะนี้รัฐบาลยังไม่ประกาศมาตรการ lockdown แต่ได้ออกกฎบังคับให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากในพื้นที่ปิดที่เป็นพื้นที่สาธารณะ

    ๗. โปแลนด์

       ณ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๑๙,๙๓๖ คนในเวลา ๒๔ ชั่วโมง โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ๓๙๘ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๒๐.๒ ล้านคน (ร้อยละ ๕๓.๔ ของจำนวนประชากร) โดยรัฐบาลยังไม่ประกาศมาตรการ lockdown และเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้กลุ่มเสี่ยงแล้ว

    ๘. สวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์

       ณ วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ มีผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่เพิ่มขึ้น ๖,๑๖๙ คนในเวลา ๒๔ ชั่วโมงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ๑๕ คน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง และมีผู้ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ๕.๖๖ ล้านคน (ร้อยละ ๖๕.๕ ของจำนวนประชากร) ขณะนี้ยังไม่มีมาตรการ lockdown และเริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้กลุ่มเสี่ยงแล้ว นอกจากนี้ บางรัฐเริ่มออกกฎบังคับให้สวมหน้ากากในบางสถานที่

 

*************************

กองยุโรปกลาง

กรมยุโรป

พฤศจิกายน ๒๕๖๔