คณะกรมมาธิการยุโรปรับรองข้อเสนอด้านภาคขนส่งใหม่ 4 ฉบับเพื่อปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมใน EU ให้ยั่งยืนขึ้น ภายใต้นโยบาย Trans-European Transport Network (TEN-T policy) ดังนี้

1. ข้อเสนอด้านภาคขนส่งใหม่ 4 ฉบับ

        เมื่อวันที่ 14-15 ธ.ค. 2564 คมธ.ยุโรป ได้เสนอแผนปฏิรูปกฎหมายฉบับ “Winter package” ซึ่งจะนำมาใช้ประกอบแผน “Fit for 55 Package” ชุดแรกที่ออกมาในเดือน ก.ค. 2564 เพื่อขอความเห็นชอบของสภายุโรปและคณะมนตรียุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งขับเคลื่อนเป้าหมายระยะกลางของ EU ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 55 ภายในปี ค.ศ. 2030 ใน 3 สาขาหลัก คือ อุตสาหกรรมขนส่ง ที่อยู่อาศัย และกิจการก๊าซธรรมชาติในภาคพลังงาน สำหรับภาคการขนส่ง คมธ. ยุโรป ได้รับรองข้อเสนอ 4 ฉบับ ดังนี้

        1.1 การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายระบบการขนส่งข้ามทวีปยุโรป (TEN-T Regulation) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟให้มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เป็นธรรม คุ้มค่าทางเศรษฐกิจและเชื่อมโยงกับขนส่งรูปแบบอื่น รวมถึงการขนส่งระหว่างประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ ได้แก่

           - เพิ่มศักยภาพโครงข่ายระบบรถไฟระหว่างเมืองให้สามารถรองรับรถไฟความเร็วสูงอย่างน้อย 160 กม./ชม. ภายใน ค.ศ. 2040 เพื่อช่วยให้การเดินทางระหว่างพื้นที่หลักในยุโรปเป็นไปโดยรวดเร็ว รวมถึงขจัดปัจจัยเสี่ยงต่อการหยุดชะงักเมื่อรถไฟแล่นผ่าน

           - พัฒนาศูนย์ขนถ่ายสินค้าให้มีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่งแต่ละรูปแบบ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก รวมทั้งพัฒนาเส้นทางที่มีการเชื่อมโยงทางกายภาพ 9 สายหลักให้เป็นระเบียงการขนส่ง (European Transport Corridors) เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน

           - เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงข้ามพรมแดนและเมืองที่สำคัญให้แล้วเสร็จภายใน ค.ศ. 2040 อาทิ จากปอร์โต (โปรตุเกส) ไปวีโก้ (สเปน) และบูดาเปสต์ (ฮังการี) ไปบูคาเรสต์ (โรมาเนีย) และ

           - พัฒนาเส้นทางคมนาคมในเมืองขนาดกลางของยุโรป 424 เมืองเพื่อมุ่งสู่การเป็น "เมืองปลอดคาร์บอน" รวมถึงการออกแบบเมืองให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเดินและใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน

        1.2 แผนปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมมาตรฐานการให้บริการรถไฟโดยสารทางไกล (Action Plan on long-distance and cross-border rail) โดยมียุทธศาสตร์สำคัญ อาทิ พัฒนาระบบการซื้อ-ขายบัตรโดยสารต่อเนื่องหลายรูปแบบ (multimodal ticketing) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างภูมิภาค ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถค้นหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกแบบ real-time ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อตั๋วรถไฟ ปรับแผนการเดินรถไฟปี ค.ศ. 2022 ให้สอดรับกับการปรับความเร็วและเพิ่มกำหนดเวลาในการเดินรถทางไกล และประกาศโครงการนำร่องมาตรฐานอย่างน้อย 15 โครงการภายในปี ค.ศ. 2030

        1.3 การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบขนส่งและจราจรอัจฉริยะ (Directive 2010/40/EU Intelligent Transport System: ITS) โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระบบการขนส่งทางถนนและรถไฟตามเส้นทาง TEN-T โดยเน้นการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ (Mobile App) ให้มีรูปแบบการให้บริการที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย เชื่อถือได้ และและสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน เช่น รายละเอียดของเส้นทาง ปริมาณจราจร การกำหนดความเร็วจำกัด ระยะเวลาเดินทาง สภาพของถนน รวมทั้งการซ่อมบำรุงระหว่างเส้นทาง

        1.4 กรอบกฎหมายด้านการเดินทางในเมืองอย่างยั่งยืนฉบับใหม่ (The new Urban Mobility Framework) เพื่อวางแนวทางและสนับสนุนด้านเงินทุนในการออกแบบการขนส่งภายในเมืองที่จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอ และมลพิษทางอากาศ เช่น สนับสนุนให้มีการใช้เชื้อเพลิงสะอาดในรถแท็กซี่ ตลอดจนบริการเรียกรถ (Ride-hailing) เพื่อลดมลพิษ รวมทั้งพัฒนาชุมทางการคมนาคมแบบครบวงจรเพื่อเร่งสร้างการเดินทางไร้รอยต่อภายในภูมิภาค

*********

ที่มา:

https://ec.europa.eu/commission/presscorner/detail/en/ip_21_6776