วันที่นำเข้าข้อมูล 20 พ.ย. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 20 พ.ย. 2567
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 รัฐสภายุโรปได้มีมติเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (Deforestation-free Products Regulation: EUDR) ออกไปอีก 1 ปี เพื่อขยายระยะเวลาในการปรับตัวเข้าสู่การใช้กฎหมายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งสมาชิกสหภาพยุโรปและประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิก โดยกฎหมายจะมีผลสำหรับกลุ่มผู้ค้าขนาดใหญ่ (large operators and traders) ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 (ค.ศ. 2025) และกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก (micro-and small enterprises) ในวันที่ 30 มิถุนายน 2569
(ค.ศ. 2026)
นอกจากนี้ รัฐสภายุโรปยังอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มกลุ่มประเทศประเภทไม่มีความเสี่ยง (no risk) ในระบบ Benchmarking System โดยกลุ่มประเทศ “no risk” คือ ประเทศที่มีความเสถียรในการพัฒนาเพิ่มขึ้นของพื้นที่ป่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2533 และเป็นประเทศที่ได้ร่วมลงนามใน Paris Agreement ตลอดจนสนธิสัญญา/ความตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการปกป้องสิทธิมนุษยชนและป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า และอนุรักษ์ป่าภายในประเทศอย่างเข้มแข็ง โปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยสหภาพยุโรปจะลดเงื่อนไขในการตรวจสอบสินค้าจากประเทศในกลุ่มดังกล่าว
กฎหมาย EUDR เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ European Green Deal ซึ่งมุ่งบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (ปริมาณการปล่อยก๊าซฯ เท่ากับปริมาณการดูดซับก๊าซฯ) ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) และมีเป้าหมายในการรักษาผืนป่าซึ่งมีความสำคัญในการดูดซับก๊าซฯ โดยครอบคลุมสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงต่อการตัดไม้ทำลายป่า 7 ประเภท ได้แก่ (1) ถั่วเหลือง (2) วัว (3) ปาล์มน้ำมัน (4) ไม้ (5) โกโก้ (6) กาแฟ และ (7) ยางพารา รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูป (derived products) บางชนิดที่ผลิตจากสินค้า 7 ประเภทดังกล่าว โดยไทยในฐานะคู่ค้าของอียูจะต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวด้วย
ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.europarl.europa.eu/news/en/press-room/20241111IPR25340/eu-deforestation-law-parliament-wants-to-give-companies-one-more-year-to-comply
*************
จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดและวันหยุดนักขัตฤกษ์)