งานเทศกาลไทยประจำปี 2561 ณ เมืองบาด ฮอมบวร์ก

งานเทศกาลไทยประจำปี 2561 ณ เมืองบาด ฮอมบวร์ก

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ก.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,607 view

                   “เปิดมุมมองใหม่ วิถีไทยอีกระดับของงานเทศกาลไทย

                   งานเทศกาลไทยในเยอรมนีเป็นกิจกรรมเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย ที่น่าประทับใจและเป็นที่ชื่นชมของชาวต่างประเทศในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนของเยอรมันเป็นประจำทุกปี ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นเทศกาลที่อยู่ในปฏิทินเทศกาลประจำเมืองบาด ฮอมบวร์ก แล้ว คนไทย คนเยอรมัน  และคนต่างชาติในเยอรมนี ต่างตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงกำหนดจัดงานเช่นเดียวกัน โดย มีผู้มาร่วมงานโดยเฉลี่ย 30,000 คน ต่อปี

 

                   เมื่อวันที่ 7 – 8 กรกฎาคม 2561 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต จึงได้ร่วมกับทีมประเทศไทยและเมืองบาด ฮอมบวร์ก จัดงานเทศกาลไทยประจำปี 2561 โดยนายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน และ Alexander Hetjes นายกเทศมนตรีเมืองบาด ฮอมบวร์ก ร่วมเป็นประธานเปิดงานเทศกาลไทย โดย เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน กล่าวในพิธีเปิดว่า ศาลาไทยเมืองบาด ฮอมบวร์ก ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้สร้างขึ้น และการเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2503 เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าประเทศไทยและเยอรมนีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษ และประชาชนคนไทยและคนเยอรมันก็เป็นมิตรที่สนิทสนมเป็นอย่างดี และนายกเทศมนตรีเมืองบาด ฮอมบวร์ก กล่าวด้วยความภาคภูมิใจเช่นกันว่า เมืองบาด ฮอมบวร์ก เป็นเมืองเดียวในโลกที่มีศาลาไทยถึง 2 หลัง อยู่ในสถานที่เดียวกัน

 

                   นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ กงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต บอกว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเยอรมันเดินทางไปประเทศไทยปีละมากกว่า 800,000 คน โดยจุดหมายหลักในการท่องเที่ยวนอกเหนือจากทะเล ชายหาด หมู่เกาะต่าง ๆ และกิจกรรมกลางแจ้งประเภทเอ็กซ์ตรีมแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลก การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิต รวมไปอาหารไทย นวดแผนไทย และสปาไทย ก็เป็นกระแสความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนำประเทศไทยก้าวข้ามกับดักในการพัฒนา สถานกงสุลใหญ่ ฯ จึงได้นำบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของไทย ไปออกร้านเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และนวัตกรรมอาหาร อาทิ ผลิตภัณฑ์จากดอกมะพร้าวอินทรีย์ มะพร้าวอบแห้ง ข้าวอินทรีย์ อาหารไทยอบแห้งแช่แข็งกึ่งสำเร็จรูป และจับคู่ธุรกิจให้แก่บริษัท SMEs ของไทย รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมความนิยมอาหารและเครื่องปรุงของไทย ผ่านการสอนและสาธิตการทำอาหารไทยโดยสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ได้นำผู้นำเข้าและผู้ประกอบการไทยในเยอรมนีมาร่วมออกร้านเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป และสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต ได้นำเสนอข้อมูลการลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่มีจุดมุ่งหมายสร้างฐานส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่ผู้ที่สนใจภายในงานอีกด้วย

 

                   การจัดงานครั้งนี้เป็นการดำเนินการทูตเชิงวัฒนธรรมโดยใช้จุดแข็งของประเทศไทยด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี การท่องเที่ยว และอาหารไทย โดยนำเสนอประเทศไทยในรูปแบบและมุมมองใหม่ ๆ  แต่ยังคงใช้การท่องเที่ยวเป็นจุดขายหลักเช่นเดิม โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้เชิญสปาชั้นนำจากประเทศไทยมาร่วมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ชาวเยอรมันและชาวต่างประเทศรับรู้ถึงการนวดแผนไทย และการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย

 

                   นอกจากนั้น กิจกรรม “เส้นทางมะพร้าว” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง คือ จังหวัดสมุทรสงคราม และส่งเสริมผลไม้เมืองร้อนของไทย โดยนำเสนอวิถีชีวิตของคนไทยที่นำมะพร้าวแทบทุกส่วนตั้งแต่ใต้ดินขึ้นไปถึงยอดและลูกมะพร้าวมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งเป็นส่วนผสมในอาหาร ขนม และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม บำรุงเส้นผม และบำรุงผิว นอกจากนั้นยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นเครื่องใช้และของเล่นได้อีกด้วย

 

                   สำหรับอีกกิจกรรมที่เป็นจุดเด่นของงาน คือ การแสดงแบบผ้าไทย ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ดร. อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำผ้าไหมและผ้าไทยโบราณและร่วมสมัยมาให้นางแบบและนายแบบกิตติมศักดิ์สวมใส่ รวมทั้งอธิบายประวัติความเป็นมา กรรมวิธีการทอ และคุณลักษณะที่พิเศษของผ้าไหมไทยให้ชาวเยอรมันและชาวต่างประเทศ รวมทั้งคนไทยที่มาร่วมงานเทศกาลไทย ได้รับรู้ รับทราบและภาคภูมิใจในความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าไทยที่สามารถนำไปประยุกต์สวมใส่ในทุก ๆ โอกาสได้

 

                   นางสาวพรรณนภาฯ  กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของงานเทศกาลไทย คือ “บรรยากาศและ ความสนุกสนานแบบไทย ๆ” เช่น การออกร้าน กิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน กิจกรรมบนเวที ไม่ว่าจะเป็น การแสดงนาฏศิลป์ ลิเก มวยไทย ระบำพื้นบ้าน 4 ภาค ละครเวที การแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง การออกสลากการกุศล เพื่อหารายได้ให้แก่โรงพยาบาลช้าง จ. ลำปาง ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์ของรางวัลหลากหลาย อาทิ บัตรโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ประจำสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี บัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศจากบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประจำภูมิภาคยุโรป บัตรที่พักโรงแรมระดับ 5 ดาว ในต่างจังหวัดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครแฟรงก์เฟิร์ต รวมทั้งของรางวัลอื่น ๆ อีกจำนวนมากอาทิ กระเป๋าเดินทาง หมวก พัด อาหารสำเร็จรูป

 

                   งานเทศกาลไทยในเยอรมนี หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “งานเทศกาลไทยเมืองบาด ฮอมบวร์ก” จัดต่อเนื่องกันมา 30 ปีแล้ว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยริเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2531 บริเวณสนามด้านหน้าศาลาไทยภายในสวนสาธารณะเมืองบาด ฮอมบวร์ก เนื่องจากเป็นศาลาไทยหลังแรกที่สร้างขึ้นนอกแผ่นดินไทย ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ประเทศเยอรมนีและเมืองบาด ฮอมบวร์ก หลังจากการเสด็จประพาสประเทศในภูมิภาคยุโรปและทรงพักรักษาพระวรกาย ครั้งที่ 2 และสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2457 ต่อมาภายหลังเมื่อมีคนมาร่วมงานมากขึ้นจึงได้ย้ายพื้นที่จัดงานไปยังด้านทิศตะวันออกของสวนสาธารณะ บนถนน Brunnenallee ซึ่งสามารถรองรับผู้มาร่วมงานได้มากกว่า และใกล้กับศาลาไทยหลังที่ 2 ซึ่งรัฐบาลไทยได้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2550 เพื่อน้อมรำลึกถึงการเสด็จประพาสสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบรอบ 100 ปี

 

***********************************************

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ