On 21 March 2018, Mr. Steve Trent, Executive Director of the Environmental Justice Foundation (EJF) paid a courtesy call on His Excellency Deputy Prime Minister General Prawit Wongsuwan at the Ministry of Defense, and discussed Thailand’s progress in combatting illegal fishing.
Deputy Prime Minister Prawit informed Mr. Trent of Thailand’s progress in tackling the IUU fishing in various dimensions, including fishing fleet management, enhancement of monitoring, control and surveillance effectiveness, law enforcement, and amendment of laws to support the preparation for Thailand’s ratification of relevant ILO conventions. He confirmed that, despite changes of government in the future, the fisheries reform in Thailand would continue under the existing legal frameworks and mechanisms already set up by the present Government. Even though the Government had to endure severe pressure from fishermen and fisheries businesses nationwide, it would remain tirelessly committed to tackling the cause of the problems. This effort had led to the stage of Thailand’s progress today. He reiterated that Thailand was ready to enhance its leading role in this matter at the regional level by sharing its experiences with other countries facing the same challenges.
Mr. Trent expressed his admiration for the Royal Thai Government’s endeavours and its progress as portrayed in a number of concrete results. He was confident that Thailand could be a good example of the country successfully solving IUU fishing for the regional and global levels. EJF would stand ready to support Thailand in this matter to achieve its ambition to become an IUU-free country which would also pave the way towards the IUU-free ASEAN in the future.
Mr. Trent was of the view that Thailand’s efforts in the past three years have overhauled the entire fisheries sector which not only benefited Thailand directly, but also other countries in the region. Thailand’s leading role in this issue was therefore crucial. He emphasised the need of transparency to reduce the relevant costs incurred, and the engagement of all stakeholders including the fisheries industry to take part in this at the regional level.
EJF is a private organisation which plays an important role in protecting the marine environment including combatting IUU fishing. Over the past three years, Thailand has cooperated with EJF through recommendations and technical assistance to increase effectiveness of the mechanisms set up for handling IUU fishing and labour issues in the fisheries sector. Recently, the Government has invited an EJF representative to be part of the Working Group on Labour Relations Promotion in Sea Fishing Operation, and also the other working group on drafting laws in support of the ratification of relevant ILO Conventions.
EJF เชื่อมั่นไทยสามารถเป็นตัวอย่างการแก้ไขปัญหาประมง IUU ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑ นายสตีฟ เทรนท์ ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิ Environmental Justice Foundation (EJF) และเจ้าหน้าที่ EJF ได้เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ณ กระทรวงกลาโหม และได้หารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของไทย
รองนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงความก้าวหน้าของไทยในการแก้ไขปัญหาประมง IUU ในด้านต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการกองเรือประมง การเพิ่มประสิทธิภาพการติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวัง การบังคับใช้กฎหมาย และการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเตรียมการให้สัตยาบันแก่อนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยืนยันว่า แม้ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล การปฏิรูปภาคประมงของไทยจะดำเนินต่อไปตามกฎหมายและกลไกการทำงานที่จัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วในรัฐบาลชุดนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะเผชิญกับแรงกดดันจากชาวประมงและภาคธุรกิจประมงทะเลทั่วประเทศ แต่รัฐบาลก็ยังมุ่งมั่นเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างไม่ลดละจนนำมาสู่ความก้าวหน้าในปัจจุบัน และย้ำว่าไทยมีความพร้อมแล้วที่จะขยายบทบาทนำของการแก้ไขปัญหาไปสู่ในระดับภูมิภาค โดยการแบ่งปันประสบการณ์ให้กับประเทศต่าง ๆ ที่เผชิญกับปัญหาเช่นเดียวกับไทย
นายเทรนท์ได้ชื่นชมความพยายามของรัฐบาลไทย และความก้าวหน้าของการแก้ไขปัญหาอันเป็นที่ประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรมมากมายหลายด้าน อีกทั้งเชื่อมั่นว่า ไทยสามารถเป็นตัวอย่างของการแก้ไขปัญหาประมง IUU ที่ดีของภูมิภาค และสามารถขยายไปสู่การเป็นผู้นำระดับโลกได้ด้วย ซึ่งมูลนิธิ EJF พร้อมจะสนับสนุนไทยในการแก้ไขปัญหาประมง IUU เพื่อให้ไทยสามารถบรรลุเจตนารมณ์ของการเป็นประเทศปลอดจากการประมง IUU และเพื่อปูทางไปสู่การเป็นภูมิภาคที่ปลอดจากประมง IUU ของอาเซียนด้วย
นายเทรนท์เห็นว่า ความพยายามแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทยในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ไทยสามารถเปลี่ยนรูปโฉมระบบประมงได้ทั้งระบบ ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีโดยตรงต่อประเทศไทยแล้ว ยังจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่นในภูมิภาคด้วย บทบาทการเป็นผู้นำของไทยในเรื่องนี้จึงสำคัญมาก และได้เน้นถึงการมีระบบการทำงานที่โปร่งใส เพื่อลดต้นทุนของการแก้ไขปัญหา และการส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมดรวมถึงอุตสาหกรรมประมงจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ในระดับภูมิภาคด้วย
มูลนิธิ EJF เป็นองค์การเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งรวมถึงการต่อต้านการทำประมง IUU ในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา ไทยได้มีความร่วมมือกับมูลนิธิ EJF ผ่านการให้ข้อเสนอแนะและความช่วยเหลือด้านเทคนิค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกลไกแก้ไขปัญหาประมง IUU และปัญหาแรงงานในภาคประมง ซึ่งล่าสุด รัฐบาลยังได้เชิญผู้แทนมูลนิธิ EJF เข้าร่วมเป็นคณะทำงานส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในกิจการประมงทะเล และคณะทำงานจัดทำร่างกฎหมายเพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ที่เกี่ยวข้องด้วย