ยุทธศาสตร์การจัดการกับพลาสติกฉบับใหม่ (EU Plastics Strategy) ของสหภาพยุโรป

ยุทธศาสตร์การจัดการกับพลาสติกฉบับใหม่ (EU Plastics Strategy) ของสหภาพยุโรป

วันที่นำเข้าข้อมูล 21 พ.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 2,899 view

 

       เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2561 คณะกรรมาธิการยุโรปได้นำเสนอยุทธศาสตร์การจัดการกับพลาสติกฉบับใหม่ (EU Plastics Strategy) เพื่อลดใช้พลาสติกในภาคอุตสาหกรรม โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนวิธีการผลิต การใช้ และการกำจัดพลาสติก โดยคณะกรรมาธิการยุโรปได้ตั้งเป้าหมายในการรีไซเคิลพลาสติกภายใน EU ให้ได้ร้อยละ 55 ในปี ค.ศ. 2030 และลดการใช้ถุงพลาสติกจาก 90 ถุงต่อคนในหนึ่งปีให้เป็น 40 ถุง ภายใน   ปี ค.ศ. 2026

        ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ สหภาพยุโรปจะเน้นการดำเนินการดังต่อไปนี้ (1) ทำให้ภาคธุรกิจได้ประโยชน์จากการรีไซเคิลให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการแข่งขันในอุตสาหกรรมดังกล่าว (2) ลดขยะพลาสติกโดยการใช้มาตรการจำกัดการใช้เม็ดพลาสติกขนาดเล็ก (microplastics) ในผลิตภัณฑ์ และติดฉลากพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ (3) หยุดการทิ้งขยะในทะเล โดยจัดทำกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการจัดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ท่าเรือเพื่อจัดการกับขยะ เพื่อรับรองว่าขยะทะเลจากเรือจะถูกนำกลับมาจัดการอย่างเหมาะสมที่ฝั่ง (4) ส่งเสริมการลงทุนด้านนวัตกรรม โดยสนับสนุนเงินลงทุน 100 ล้านยูโรสำหรับการพัฒนาวัสดุที่ใช้พลาสติกให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการรีไซเคิล รวมถึงการตรวจสอบและติดตามการกำจัดสารอันตรายและสารปนเปื้อนจากพลาสติก และ (5) กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก โดยที่สหภาพยุโรปจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนทั่วโลกเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้เกิดเป็นมาตรฐานในระดับสากล

       ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเสนอแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ให้สภายุโรปและคณะมนตรียุโรปพิจารณา ก่อนมีผลบังคับใช้ต่อไป

       แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวของ EU สอดคล้องกับนโยบายของไทย เนื่องจากไทยมีแผนแม่บทการบริหารขยะ มูลฝอยของประเทศ ปี พ.ศ. 2559-2564 ที่มีเป้าหมายเพื่อเป็นกรอบและกำหนดทิศทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตรายในภาพรวมของประเทศ โดยมีมาตรการเพื่อจัดการขยะทะเล และตั้งเป้าหมายระยะยาวตั้งแต่ปี 2558-2573 ในการลดขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งส่วนใหญ่มีที่มาจากบนบก ให้ได้ 0.06-0.16 ล้านตันต่อปี  และมีการจัดทำพื้นที่ต้นแบบในการห้ามใช้ขยะพลาสติกโดยให้ใช้วัสดุอื่นทดแทน เพื่อให้ประเทศไทยหลุดจากอันดับที่ 6 ของโลกจากการจัดอันดับประเทศที่มีการทิ้งขยะลงน้ำมากที่สุด